วันเสาร์ที่ 20 กันยายน พ.ศ. 2557

Slot machine

สล็อต แมชชีน (วงดนตรี)

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
สล็อต แมชชีน
Slot machine.JPG
ข้อมูลพื้นฐาน
เกิดที่ไทย กรุงเทพ ประเทศไทย
แนวเพลงอัลเทอร์เนทีฟ
ร็อก
โมเดิร์น ร็อก
ปี2543 - ปัจจุบัน
ค่ายบีอีซี-เทโร มิวสิค
เว็บไซต์www.slotmachinerock.com
สมาชิก
เสฐพงษ์ ดุรงค์จิรกานต์ (ร้องนำ)
อธิราช ปิ่นทอง (เบส)
เจนวิทย์ จันทร์ปัญญาวงศ์ (กีต้าร์)
เศรษฐรัตน์ พังจุนันท์ (กลอง)
อดีตสมาชิก
เขมโสภณ วงศ์ไพศาลสิน (กีต้าร์)
กนันทร์ วีระณรงค์ (กีต้าร์)
ปรมา อุปสาร (กลอง)
สล็อต แมชชีน (อังกฤษ: Slot Machine) เป็นวงดนตรีสัญชาติไทย เจ้าของบทเพลง "ผ่าน" ที่มีชื่อเสียง จนทำให้เพลงนี้คว้ารางวัล Song Of The Year จากเวที Seed Awards และยังได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลทางดนตรีอีกหลายสาขาจากหลายสถาบัน


ประวัติ[แก้]

เฟิร์ส (ร้องนำ) และ แก๊ก (เบส) ที่เรียนอยู่โรงเรียนสาธิตมหาวิทยาลัยศิลปากร ก่อตั้งวง “อะลุ่มอะหล่วย” โดยมี ก่อน (กีต้าร์) ลูกคุณ (กลอง) ในการประกวดฮอตเวฟ มิวสิก อวอร์ด ครั้งที่ 6 และได้รับรางวัลรองชนะเลิศ อันดับ 1 จากนั้นลูกคุณเป็นคนเดียวที่แกรมมี่รับไว้ (ภายหลังมีผลงานในนามของวง ฟรีเพลย์) ทำให้"อะลุ่มอล่วย"ขาดมือกลอง จึงให้"เกอร์" เพื่อนเก่าสมัยมัธยมมารับหน้าที่มือกลองแทน สลอตแมชชีนอัลบั้มแรกจึงมีสมาชิกเดิมคือ เฟิร์ส (นักร้องนำ) แก๊ก (เบส) ก่อน (กีต้าร์) และสมาชิกใหม่ที่ไม่ได้ประกวดมาด้วยกันคือ เกอร์/มือกลอง
พอมาอัลบั้มที่สองนี้ ก็ได้มีการเปลี่ยนสมาชิกอีกครั้ง โดยก่อนและเก้อได้ออกไป และยุทธ (กีต้าร์) วิทย์ (กีต้าร์) ออโต้ (กลอง) มาเป็นสมาชิกใหม่ ร่วมกับ ก่อน (กีต้าร์) และ เกอร์ (กลอง) และเริ่มฉายแววความสามารถด้วยการคว้ารางวัลจากการประกวดดนตรี อาทิเช่น รองชนะเลิศอันดับ 2 จากเวทีศิลปากร มิวสิกอะวอร์ด และรางวัลรองชนะเลิศ อันดับ 1 ฮอตเวฟ มิวสิก อวอร์ด ครั้งที่ 6
ต่อมา ในปี 2547 ทั้ง 4 สมาชิกของ “อะลุ่มอะหล่วย” ก็ได้มีโอกาสออกอัลบั้มชุดแรกกับ โซนี่ มิวสิก บีอีซี-เทโร (ซึ่งต่อมาคือ โซนี่ มิวสิก ในปัจจุบัน) โดยพวกเขาเลือกที่จะเปลี่ยนชื่อวงจาก “อะลุ้มอะหล่วย” มาเป็น “Slot Machine” โดยมีอัลบั้มแรกที่ใช้ชื่อเดียวกับชื่อวง มีเพลงดังอย่าง “รอ”
ปี 2549 สล็อต แมชชีน มีสมาชิกเปลี่ยนออก 2 คนและเพิ่มขึ้นอีก 3 คน จากวงดนตรี 4 ชิ้น เป็น 5 ชิ้น และออกอัลบั้ม “Mutation” (มิวเทชั่น) ที่มีเพลงดังอย่าง “ผ่าน”, “คำสุดท้าย” และอีกหลายเพลงในอัลบั้ม สล็อต แมชชีนได้รับเชิญเป็นวงเปิดการแสดงให้กับคอนเสิร์ตของวงร็อกระดับโลก Linkin Park Live In Bangkok 2007 ของวง Linkin Park
อัลบั้มชุดต่อมา GREY ออกในปี 2551 ชุดนี้ได้ร่วมงานกับ สก็อตต์ มอฟฟ์แฟตต์ (อดีตสมาชิกของ เดอะ มอฟฟ์แฟตส์ วงพี่น้องชื่อก้องจากแคนาดา) โปรดิวเซอร์จากชุดที่แล้วอีกครั้ง ซึ่งสมาชิกปัจจุบันในชุดนี้มีเพียง 4 คน เปิดตัวด้วยเพลง“ฝัน” [1]
และในปี 2554 ได้ออกอัลบั้มที่ 4 ชื่ออัลบั้มว่า Cell (เซลล์) โดยมี เจ-มณฑล จิรา มาเป็นโปรดิวเซอร์ให้ มีเพลงเปิดตัวอัลบั้มชื่อเพลง “จันทร์เจ้า” และตามด้วยเพลง “สวนดอกไม้”

สมาชิก[แก้]

  • คาริญญ์ยวัฒ (เสฐพงษ์) ดุรงค์จิรกานต์ (เฟิร์ส) - ร้องนำ (2543-ปัจจุบัน)
  • อธิราช ปิ่นทอง (แก๊ก) - เบส (2543-ปัจจุบัน)
  • เจนวิทย์ จันทร์ปัญญาวงศ์ (วิทย์) - กีตาร์ (2549-ปัจจุบัน)
  • เศรษฐรัตน์ พังจุนันท์ (ออโต้) - กลอง (2549-ปัจจุบัน)
หมายเหตุ แต่เดิมเฟิร์สชื่อว่า ศริส หอมหวล ซึ่งได้มีการเปลี่ยนชื่อในภายหลัง

อดีตสมาชิก[แก้]

  • สุพนธ์ ศิลปศาสตร์ (เกมส์)- กีต้าร์ (2543-2547)
  • กนันทร์ วีระณรงค์ (ก่อน) - กีต้าร์ (2543-2548)
  • ปรมา อุปสาร (เกอร์) - กลอง (2543-2548)
  • เขมโสภณ วงศ์ไพศาลสิน (ยุทธ) - กีต้าร์ (2549-2551)

ผลงานเพลง[แก้]

สตูดิโออัลบั้ม[แก้]

Slot Machine (พ.ศ. 2547, โซนี่ มิวสิก)[แก้]

    • รอ (I'm waiting for you)
    • ไม่รักก็บอกไม่รัก
    • หัวใช่เท้า
    • อยากจะยอม
    • อย่างน้อย
    • คนเดียวก็มากพอ
    • ไม่ผิดสักคน
    • เน้นเลย
    • รางวัลของคนรักจริง
    • สัญญาณไม่ดี

Mutation (พ.ศ. 2549, โซนี่ มิวสิก)[แก้]

    • Break Down
    • ผ่าน (Yesterday)
    • คำสุดท้าย (Song For U)
    • Your Eyes
    • ความรัก (Love)
    • หลอน (Butterfly Effect)
    • Mutation
    • ภาวนา (Someday I'll Be Fine)
    • Paper Cage
    • Supernova
    • สิ่งหนึ่งในใจ (Little Big Thing)
    • I Should
    • รอ - Acoustic Version

GREY (พ.ศ. 2551, โซนี่ มิวสิก)[แก้]

    • ลืมโลก (Outta Space)
    • ฝัน (Dream)
    • เวิ้งว้าง (Auto Lonely)
    • You Are Nothing
    • เหนือกาลเวลา (Beautiful)
    • You & Me
    • หากฉันตาย (If I Die)
    • ปล่อย (Anyday)
    • We Are The Rock
    • ฤดู (Grey Sky)

CELL (พ.ศ. 2554, โซนี่ มิวสิก)[แก้]

    • Cell
    • สวนดอกไม้ (Sound of Silence)
    • ราตรีไร้นาม (Darkness Sunlight)
    • เวทนา (Automatic Lonely)
    • พระอาทิตย์ทรงกลด (Golden Age)
    • XY
    • พลูโตที่รัก (The Plutonian)
    • จันทร์เจ้า (Goodbye)
    • Vaccine
    • นิรันดร์ (Always)
    • ฝันกลางวัน (Temple Party)

Rainbow (พ.ศ. 2557, โซนี่ มิวสิก)[แก้]

    • รุ้ง (Rainbow)
    • เคลิ้ม (Kloem)
    • เหนื่อยบ้างไหม
    • มีคนคิดถึงเธอ
    • Fighter
    • ปริศนา
    • ฝันของดวงจันทร์
    • อยู่ที่ไหน
    • อนาคต
    • ทำใจ
    • อยู่ที่ไหน
    • ค่ำคืนเดียวดาย

อัลบั้มรวมฮิต[แก้]

Time Machine (2004-2013) (The Best of Slot Machine ) (พ.ศ. 2556, โซนี่ มิวสิก)[แก้]

    • รอ (I'm Waiting For You)
    • ผ่าน (Yesterday)
    • คำสุดท้าย(Song For U)
    • ความรัก (Love)
    • ภาวนา (Someday I'll Be Fine)
    • สิ่งหนึ่งในใจ (Little Big Thing)
    • ฝัน (Dream)
    • เวิ้งว้าง (Auto Lonely)
    • เหนือกาลเวลา (Beautiful)
    • ฤดู (Grey Sky)
    • สวนดอกไม้ (Sound of Silence)
    • พระอาทิตย์ทรงกลด (Golden Age)
    • พลูโตที่รัก (The Plutonian)
    • จันทร์เจ้า (Goodbye)
    • Vaccine
    • ฝันกลางวัน (Temple Party)
    • พอ (Pho) - OST. คืนวันเสาร์ถึงเช้าวันจันทร์
    • พลังใจ พลังจิต (Heart & Soul) - Official Song of the FIFA Futsal World Cup Thailand 2012

รางวัลทางดนตรี[แก้]

  • SEED AWARDS ครั้งที่ 2 (มกราคม 2550) เพลงยอดเยี่ยมสุดซี้ดประจำปี SEED SONG OF THE YEAR จากเพลง "ผ่าน"
  • รางวัลสีสัน อวอร์ดส ประจำปี2549 ศิลปินกลุ่มร็อก ยอดเยี่ยม
  • Music Express Awards 2006 เพลงไทยยอดเยี่ยม จากเพลง "ผ่าน" อัลบั้มเพลงไทยยอดเยี่ยม จากอัลบั้ม "Mutation"
  • รางวัล อัลบั้มยอดเยี่ยม และ ศิลปินกลุ่มยอดเยี่ยมจากผลงานอัลบั้มชุดล่าสุด Cell บนเวทีขึ้นชื่ออย่าง คมชัดลึก อวอร์ด ครั้งที่ 9 ประจำปี 2554
  • รางวัล nine entertain awards 2012 สาขาศิลปินกลุ่มแห่งปี

Hi5

ไฮไฟฟ์

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
สำหรับความหมายอื่น ดูที่ ไฮไฟฟ์ (แก้ความกำกวม)
Hi5
Hi5logothales.png
เว็บไซต์hi5.com
เชิงพาณิชย์?ใช่
ประเภทเครือข่ายสังคมออนไลน์
การลงทะเบียนจำเป็น
ภาษาหลายภาษา (ภาษาอังกฤษเป็นหลัก)
เจ้าของSona Networks
ผู้ก่อตั้งลามู ยาละมันชัย
วันที่เปิดตัว27 มิถุนายน พ.ศ. 2546 (ค.ศ. 2003)
สถานะปัจจุบันเปิดให้บริการ
ไฮไฟว์ (อังกฤษ: hi5) เป็นเว็บไซต์ในลักษณะเครือข่ายสังคมออนไลน์ที่ใหญ่ที่สุดติดอันดับ 1 ใน 10 ของโลก มีจำนวนสมาชิกลงทะเบียนใช้งานอยู่กว่า 65 ล้านรายทั่วโลก สมาชิกส่วนใหญ่ใช้ไฮไฟฟ์ในการติดต่อสื่อสารกับกลุ่มเพื่อน แลกเปลี่ยนประสบการณ์ แชร์รูปภาพกันดู ในแต่ละวันจะมีสมาชิกเข้ามาใช้บริการจากทั่วโลกนับล้านราย โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย[1]


ประวัติ[แก้]

ลามู ยาละมันชัย นักศึกษาปริญญาตรีชาวอเมริกา ได้ร่วมกับเพื่อน ๆ ในมหาวิทยาลัยอิลลินอยส์ เออร์แบนา-แชมเปญจน์ที่เรียนปริญญาตรีทางด้านวิทยาการคอมพิวเตอร์ ก่อตั้ง SponsorNet New Media ธุรกิจตัวแทนโฆษณาบนอินเทอร์เน็ต ในปี 2004 (ปี 2547) โดยยาละมันชัย ได้เห็นว่าระบบการโฆษณาผ่านแบนเนอร์แบบเก่า ๆ ที่อาจไม่ตรงกลุ่มเป้าหมาย และพฤติกรรมการสร้างอัลบั้มรูปแล้วพูดคุยกัน การเกิดกลุ่มเพื่อนที่คอยอัปเดตข่าวแต่ละคนทางอินเทอร์เน็ต จึงได้เกิดเป็นเว็บไซต์ไฮไฟฟ์[2]

รูปแบบ[แก้]

ไฮไฟฟ์ เป็นเว็บไซต์ประเภท Social Network หรืออาจเรียกในภาษาไทยว่า “เครือข่ายสังคม” หรือ “เครือข่ายมิตรภาพ” หรือ “กลุ่มสังคมออนไลน์” คือบริการผ่านเว็บไซต์ที่เป็นจุดโยงระหว่างบุคคลแต่ละคนที่มีเครือข่ายสังคมของตัวเองผ่านเน็ตเวิร์คอินเทอร์เน็ต รวมทั้งเชื่อมโยงบริการต่างๆ อย่าง เมล์ เมสเซ็นเจอร์ เว็บบอร์ด บล็อก ฯลฯ เข้าด้วยกัน นอกจากนี้ยังมีก็กลุ่มย่อยตามความสนใจร่วมกัน เช่น กลุ่มคนขี่จักรยานเสือภูเขา กลุ่มแฟนคลับเดธโน้ต เป็นต้น โดยคนที่ลงทะเบียนสมัครจะกรอกข้อมูลส่วนตัว รูปภาพ อัลบั้มรูป โดยเชื่อมเครือข่ายสังคมและเครือข่ายมิตรภาพเข้าด้วยกัน ด้วยการแชร์รูป แชร์ไฟล์ดูกัน[3]
นอกจากนี้ยังมีฟังก์ชันเสริมอื่น ๆ เช่น การฝังวิดีโอคลิป ฝังจอเล่นเพลง ฝังจอพิเศษที่นำรูปทั้งหมดของเรามาเล่นเรียงแบบฉายสไลด์ ซึ่งอุปกรณ์เสริมเหล่านี้เรียกว่า วิดเจ็ต (Widget) และยังเป็นฐานเปิดกว้างให้บริการอื่นๆ ร่วมด้วยอย่าง เว็บรับฝากคลิปวิดีโอ ยูทูบ หรือ หรือเว็บรับฝากเพลง iMeem นอกจากนี้ยังมีจอพิเศษที่จะฉายอัลบั้มรูปเราแบบสไลด์ของ slide.com และมีเกมสั้น ๆ ง่ายๆ สไตล์ Flash Game อีกชิ้นส่วนสำคัญคือหน้าจอ หรือที่เรียกว่า สกิน เป็นพื้นหลังแบ็กกราวนด์ ที่สามารถเลือกลวดลายและรูป ที่สามารถดาวน์โหลดได้ตามเว็บ และอีกลูกเล่นคือ กลิตเตอร์ (Glitter) การ์ตูนขยับหรือภาพ “ดุ๊กดิ๊ก” ที่ผู้ใช้สามารถคัดลอกโค้ดไปแปะในหน้าของตัวเองและส่งให้เพื่อน ๆ กันอย่างแพร่หลาย
และหลังจากที่คู่แข่งอย่าง เฟซบุ้ก เปิดโอกาสให้โปรแกรมเมอร์หรือใครก็ได้สร้างวิดเจ็ตขึ้นไปแปะบนหน้าเฟซบุ้กตัวเอง และแจกจ่ายให้แพร่หลายออกไปได้ ซึ่งไฮไฟฟ์เคยควบคุมไว้โดยตลอด แต่ต่อมา ไฮไฟฟ์ร่วมมือกับมายสเปซ ให้กูเกิ้ล ช่วยพัฒนาระบบชื่อ “Open Social” ซึ่งจะเป็นการเปิดกว้างให้มีวิดเจ็ตเช่นเดียวกับเฟซบุ้ก[4]

ความนิยมและกลุ่มผู้ใช้[แก้]

ไฮไฟฟ์ เป็นเว็บไซต์ที่ได้รับความนิยมสูงสุดเป็นอันดับ 37 ของอาบูดาบี ตามมาด้วย มูเดิล และวินโดวส์ไลฟ์ (ข้อมูลเดือน กุมภาพันธ์ 2550[5]) และติดอันดับ 1 ใน 10 ในอีกกว่า 30 ประเทศ ไฮไฟฟ์กลุ่มของผู้ที่ใช้ภาษาสเปน เป็นหลักโดยเฉพาะในทวีปอเมริกาใต้ กลุ่มประเทศที่นิยมการใช้ไฮไฟฟ์ คือ สาธารณรัฐโดมินิกัน คอสตาริกา เอลซัลวาดอร์ เอกวาดอร์ ฮอนดูรัส รองลงมาคือ กัวเตมาลา เปรู ขณะเดียวกันรวมถึงประเทศอื่นที่ไม่ใช่ภาษาอังกฤษ เช่น โปรตุเกส โรมาเนีย และประเทศไทยที่ปัจจุบันมีตัวเลขผู้เล่นไฮไฟฟ์ประมาณ 3 ล้านราย และมียอดผู้ใช้เป็นอันดับ 15 รองจากเม็กซิโก (ข้อมูลเดือน มิถุนายน 2551)[6]
จากการสำรวจข้อมูลของคนไทยที่ใช้ไฮไฟฟ์ ในช่วงเดือน ธันวาคม พ.ศ. 2550 พบว่า ที่มีการเล่นมากที่สุดอยู่ที่ช่วงอายุ 18-24 ปี เป็นสัดส่วนถึง 42.19% โดยสัดส่วนของผู้หญิงและผู้ชายก็จะอยู่ในระดับใกล้เคียงกัน โดยที่สัดส่วนของผู้เล่นเพศหญิงจะมากกว่าเล็กน้อย[7]

การจัดอันดับ[แก้]

  • Alexa Rank :: อยู่อันดับที่ 42

ข้อมูลเชิงเทคนิค[แก้]

ไฮไฟฟ์พัฒนาบนเซิร์ฟเวอร์ลินุกซ์โดยใช้โพสต์เกรสคิวเอลเป็นฐานข้อมูล และมีการใช้งานระบบของจาวา รวมถึง JSP Servlets Sturts และ JDBC[8]

อ้างอิง[แก้]

  1. กระโดดขึ้น “Hi5”ตั้งบริษัทลูกหม้อสนุกเป็นตัวแทนขายโฆษณาออนไลน์ในไทย
  2. กระโดดขึ้น สมคิด เอนกทวีผล , Hi5 บูม สนามใหม่โฆษณาไทย Positioning Magazine พฤศจิกายน 2550
  3. กระโดดขึ้น ปิยะพงษ์ ป้องภัย, hi5 มาแรงสุด Social Network แจ้งเกิดเต็มตัว Positioning Magazine มีนาคม 2551
  4. กระโดดขึ้น สมคิด เอนกทวีผล ,ทำไมใครๆ ก็ hi5 ? Positioning Magazine มีนาคม 2551
  5. กระโดดขึ้น อันดับเว็บนิยมจากอินเทอร์เน็ตในประเทศไทย
  6. กระโดดขึ้น นิตยสาร Positioning ฉบับเดือนมิถุนายน 2551 หน้า 183 ปัจุบัน เจ๊งแล้ว
  7. กระโดดขึ้น หนังสือพิมพ์ประชาชาติธุรกิจ ฉบับวันที่ 06 ธันวาคม พ.ศ. 2550 หน้า 38
  8. กระโดดขึ้น Rodney Gedda (2007-05-30). "Open source PostgreSQL hits another Hi5". Computerworld. สืบค้นเมื่อ 2007-10-23.

ดูเพิ่ม[แก้]

แหล่งข้อมูลอื่น[แก้]

Dx

ดี-เจเนอเรชันเอ็กซ์

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
ดี-เจเรเนชั่น เอกซ์
D-Generation X
An image of ดี-เจเรเนชั่น เอกซ์.
ข้อมูล
สมาชิกชอว์น ไมเคิลส์
ทริปเปิล เอช
โรด ด็อก
บิลลี่ กัน
เอกซ์-แพ็ค
สเตฟานี แม็กแมเฮิน
ฮอร์นสวอเกอร์
อดีตสมาชิกไมค์ ไทสัน
ไชนา
ทอรี
ฉายาDegeneration X
D-Generation X
DX
D-X
เปิดตัว11 สิงหาคม ค.ศ. 1997
สมาคมWWF/E
แตกกลุ่ม1 มีนาคม ค.ศ. 2010
ดี-เจเนอเรชันเอ็กซ์ (อังกฤษ: D-Generation X) เป็นกลุ่มทีมมวยปล้ำอาชีพ ถือก่อตั้งเมื่อปี ค.ศ. 1997 ชอว์น ไมเคิลส์ ได้ร่วมกับ ทริปเปิล เอช และ ไชนา ก่อตั้งกลุ่ม D-Generation X ขึ้น โดยตอนนั้น มีสมาชิกในกลุ่มเพียง 3 คนเท่านั้น


ประวัติในสังเวียนมวยปล้ำ[แก้]

ปี 1997[แก้]
เป็นยุคแรกเริ่มของ DX ซึ่งตอนนั้นมีสมาชิกเพียง 3 คน คือ ทริปเปิล เอช, ชอว์น ไมเคิลส์ และ ไชนา เป็นกลุ่มที่กร่างและแกร่งที่สุดในตอนนั้น ซึ่งเคยมีแนวร่วมเป็นถึงแชมป์โลก WBC อย่าง ไมค์ ไทสัน ในช่วงเวลานั้นกลุ่ม DX ได้เปิดศึกกับ สตีฟ ออสติน ซึ่งเป็นดาวรุ่งมาแรงในขณะนั้น สงครามของพวกเขาได้จบลงใน เรสเซิลเมเนีย ครั้งที่ 14 โดย DX เป็นฝ่ายปราชัยแก่ สตีฟ ออสติน
ปี 2006[แก้]
ทริปเปิล เอช ได้กลับมาร่วมมือกับ ชอว์น ไมเคิลส์ และได้กลายมาเป็นกลุ่ม ดี-เจเนอเรชันเอ็กซ์ เปิดศึกกับ ตระกูลแมคแมน (วินซ์ แม็กแมน และ เชน แมคแมน) ในศึก อันฟอกิฟเว่น (2006) ดี-เอ็กซ์ จะต้องเจอกับ วินซ์ แมคแมน, เชน แมคแมน และ บิ๊กโชว์ ในการปล้ำ 3 รุม 2 ในแมตช์ Hell in a Cell สุดท้าย ดี-เอ็กซ์ ก็เอาชนะไปได้สำเร็จ ต่อมา ดี-เอ็กซ์ ไปเปิดศึกกับกลุ่ม Rated-RKO (เอดจ์ และ แรนดี ออร์ตัน) ซึ่งผลัดแพ้ผลัดชนะกันหลายรอบ จนจบด้วยการที่ ทริปเปิล เอช เจ็บเข่าต้องพักไป 7 เดือน
ปี 2009[แก้]
ดี-เจเนอเรชันเอกซ์ ฉลองชัยในกรงเหล็ก หลังจากเอาชนะ เดอะเลกาซี
ทริปเปิล เอช ได้จับคู่กับ ชอว์น ไมเคิลส์ ในนามกลุ่ม ดี-เจเนอเรชันเอ็กซ์ อีกครั้ง และได้เปิดศึกกับ เดอะเลกาซี ในศึก ซัมเมอร์สแลม (2009) สามารถเอาชนะ เดอะเลกาซี ได้สำเร็จ ต่อมา ดี-เอ็กซ์ สามารถคว้า แชมป์แทคทีมยูนิฟายด์ มาได้สำเร็จ เป็นครั้งแรก โดยเอาชนะเจอริโชว์ (คริส เจอริโค และ บิ๊กโชว์) ในแมตช์การปล้ำ TLC Match ในศึก ทีแอลซี: เทเบิล แลดเดอร์ แอนด์ แชร์ (2009)
ปี 2010[แก้]
ทริปเปิล เอช ได้แยกกลุ่มกับ ชอว์น ไมเคิลส์ หลังจากทั้งคู่เสียแชมป์แทคทีมยูนิฟายด์ ให้กับทีมโชมิซ (บิ๊กโชว์ และ เดอะ มิซ) ในศึก อิลิมิเนชั่น แชมเบอร์ (2010) ดิอันเดอร์เทเกอร์ จะต้องป้องกัน แชมป์โลกเฮฟวี่เวท ในแมตช์การปล้ำอิลิมิเนชั่น แชมเบอร์ ระหว่างการปล้ำเหลือ 2 คนสุดท้าย คือ อันเดอร์เทเกอร์ และ คริส เจอริโค แล้ว อันเดอร์เทเกอร์ ถูก ชอว์น มารอบทำร้ายด้วยท่า Sweet Chin Music ใส่ อันเดอร์เทเกอร์ ทำให้เสียแชมป์โลกเฮฟวี่เวท ให้กับ คริส เจอริโค
ในศึก รอว์ อันเดอร์เทเกอร์ ปรากฏตัวอีกครั้ง และได้รับคำท้าจากชอว์น ว่าจะให้เจออีกครั้ง ในศึก เรสเซิลเมเนีย ครั้งที่ 26 โดยกติกานั้น หากว่า ชอว์น ไม่สามารถเอาชนะอันเดอร์เทเกอร์ได้ จะต้องรีไทร์ตนเองออกจากวงการมวยปล้ำไป ซึ่งก็เป็นอันว่า ชอว์น ก็จะได้ไปเจอกับอันเดอร์เทเกอร์ อีกครั้ง ในศึก เรสเซิลเมเนีย ครั้งที่ 26 และครั้งนี้เป็นการเดิมพันระหว่าง สถิติไร้พ่าย ในศึก เรสเซิลเมเนีย ของ อันเดอร์เทเกอร์ กับ อาชีพมวยปล้ำของ ชอว์น ผลปรากฏว่า ชอว์นเป็นฝ่ายแพ้ไป ซึ่งทำให้สถิติของอันเดอร์เทเกอร์ เป็นสถิติ 18-0 และทำให้อาชีพมวยปล้ำของเขาจบลง ถือว่าเป็นการยุติอาชีพมวยปล้ำของ ชอว์น ไมเคิลส์ อย่างเป็นทางการ
ปี 2012[แก้]
ทริปเปิล เอช จัดการแดเมียน แซนดาว ด้วยท่า Pedigree ในศึก รอว์ 1000
ดี-เจเนอเรชันเอ็กซ์ ได้กลับมารวมตัวกันอีกครั้งในศึก รอว์ 1000 โดยมี ทริปเปิล เอช กับ ชอว์น ไมเคิลส์ และตามด้วย โรด ด็อก, เอกซ์-แพค และบิลลี่ กัน ขับรถจี๊ปทหารตามออกมา ดีเอกซ์ เล่นตลกคาเฟ่กันอยู่นาน ทำให้ แดเมียน แซนดาว ออกมาขัดจังหวะ ชอว์น ไมเคิลส์ เลยจัดการใส่ Sweet Chin Music ต่อด้วย Pedigree ของ ทริปเปิล เอช[1]

สมาชิก[แก้]

ในปีต่อมา ได้มีสมาชิกเพิ่มมากยิ่งขึ้น ได้แก่
  • เอกซ์-แพ็ค (X-Pac)
  • ทอรี่ (Tori)
จนถึงในปี 2009 เหลือสมาชิกในกลุ่มเพียง 2 คน คือ ชอว์น ไมเคิลส์ และ ทริปเปิล เอช
และในที่สุด ในศึก เรสเซิลเมเนีย ครั้งที่ 26 ชอว์น ไมเคิลส์ ได้ท้าศึก Streak vs Career กับ ดิอันเดอร์เทเกอร์ และพ่ายแพ้ไปทำให้ต้องลาจากวงการมวยปล้ำไป
กลุ่ม DX จึงเหลือเพียงแค่ ทริปเปิล เอช ในขณะนี้

เกี่ยวกับมวยปล้ำ[แก้]

ท่าเปิดตัวของ ดี-เจเรเนชั่น เอกซ์
  • New Age Outlaws double team finishing moves
    • Double flapjack dropped into a hangman
    • Spike piledriver
    • Outlaw Driver (Spike brainbuster)
  • Triple H & Shawn Michaels double team finishing moves
    • X-Mark (Sweet Chin Music (Michaels) / Pedigree (Triple H) combination)
    • Triple H performing the Pedigree, with Michaels pushing down on the victim for extra force
  • Triple H & Shawn Michaels double-team signature moves
    • Double DDT
    • Facebreaker knee smash by Triple H into an inverted atomic drop by Michaels
    • Sharpshooter / Crossface combination
    • Spinning spinebuster by Triple H followed by a diving elbow drop by Michaels
    • Triple H throwing Michaels over the top ropes, with Michaels performing a senton
  • Billy Gunn's finishing moves
    • Fame–Ass–er/Famouser (Leg drop bulldog)
  • Chyna's finishing moves
    • ดีดีที (DDT)
    • Low blow
    • เพดดิกรี (Pedigree) (Double underhook facebuster)
  • Road Dogg's finishing moves
    • Pumphandle falling powerslam
    • Running knee drop, with theatrics[2]
    • Shake, Rattle and Roll (Three left-handed jabs followed by a right-handed punch with theatrics)
  • Shawn Michaels' finishing moves
    • มอดิฟายด์ ฟิกเกอร์ โฟร์ เลคล็อก (Modified figure four leglock) [3]
    • สวีต ชิน มิวสิก (Sweet Chin Music) (Superkick with theatrics)
  • Triple H's finishing moves
    • เพดดิกรี (Pedigree) (Double underhook facebuster)
  • X-Pac's finishing moves
    • X-Factor (Sitout facebuster, sometimes from the top rope)
  • Tori's finishing moves
    • Tori–Plex (Fallaway powerbomb)
  • เพลงเปิดตัว
    • "Break It Down" performed โดย Chris Warren and composed โดย Jim Johnston (1997–2000, 2002, 2006–2010)
    • "The Kings" โดย Run–D.M.C. (2000)

ผลงานทั้งหมด[แก้]

  • WrestleSlam Awards
    • Tag Team of the Year (2009)

อ้างอิง[แก้]

  1. กระโดดขึ้น Caldwell, James. "CALDWELL'S WWE RAW RESULTS 7/23: Complete "virtual-time" coverage of live Raw #999 - WWE recognizes 1,000 episodes, WWE Title match, Lesnar, Rock, DX, wedding". Pro Wrestling Torch. สืบค้นเมื่อ 28 July 2012.
  2. กระโดดขึ้น WWE Summerslam 2000 (DVD). WWE Video Sony. สืบค้นเมื่อ 2009-08-06. Unknown parameter |release date= ignored (help); Unknown parameter |Series= ignored (|series= suggested) (help)
  3. กระโดดขึ้น Newth, Chris (2008-03-03). "Raw Storylines and Feuds – A look at Cena-Orton-HHH, Jericho-Hardy, and Floyd Mayweather". Pro Wrestling Torch. สืบค้นเมื่อ 2009-09-23. "The match ended when Flair locked in his Figure Four on Cade while [Michaels] applied his modified Figure Four on Murdoch for the double tap."
  4. กระโดดขึ้น "WWE Tag Team Championship history".
  5. กระโดดขึ้น "Triple H and Shawn Michaels' first WWE Tag Team Championship reign".
  6. กระโดดขึ้น "WWE Championship history". WWE. สืบค้นเมื่อ 2008-01-20.
  7. กระโดดขึ้น "Triple H's third WWE Championship reign". WWE. สืบค้นเมื่อ 2008-01-20.
  8. กระโดดขึ้น "Triple H's fourth WWE Championship reign". WWE. สืบค้นเมื่อ 2008-01-20.
  9. กระโดดขึ้น "WWE European Championship history". WWE. สืบค้นเมื่อ 2008-01-20.
  10. กระโดดขึ้น "X-Pac's first European Championship reign". WWE. สืบค้นเมื่อ 2008-01-20.
  11. กระโดดขึ้น "X-Pac's second European Championship reign". WWE. สืบค้นเมื่อ 2008-01-20.
  12. กระโดดขึ้น "WWE Hardcore Championship history". WWE. สืบค้นเมื่อ 2008-01-20.
  13. กระโดดขึ้น "WWE Intercontinental Championship history".
  14. กระโดดขึ้น "Triple H's second Intercontinental Championship reign". WWE. สืบค้นเมื่อ 2008-01-20.
  15. กระโดดขึ้น "Road Dogg's first Intercontinental Championship reign". WWE. สืบค้นเมื่อ 2008-01-20.
  16. กระโดดขึ้น "World Tag Team Championship history". WWE. สืบค้นเมื่อ 2008-01-20.
  17. กระโดดขึ้น "The New Age Outlaws' second World Tag Team Championship reign". WWE. สืบค้นเมื่อ 2008-01-20.
  18. กระโดดขึ้น "The New Age Outlaws' third World Tag Team Championship reign". WWE. สืบค้นเมื่อ 2008-01-20.
  19. กระโดดขึ้น "The New Age Outlaws' fourth World Tag Team Championship reign". WWE. สืบค้นเมื่อ 2008-01-20.
  20. กระโดดขึ้น "The New Age Outlaws' fifth World Tag Team Championship reign". WWE. สืบค้นเมื่อ 2008-01-20.
  21. กระโดดขึ้น "Triple H and Shawn Michaels' first World Tag Team Championship reign". World Wrestling Entertainment. สืบค้นเมื่อ 2009-12-13.
  22. กระโดดขึ้น "WWE Women's Championship history". WWE. สืบค้นเมื่อ 2008-01-20.
  23. กระโดดขึ้น "Stephanie McMahon's first Women's Championship reign". WWE. สืบค้นเมื่อ 2008-01-20.

แหล่งข้อมูลอื่น[แก้]